ครั้งสุดท้ายที่เยอรมนีติดอาวุธคือในช่วงปี 1930s ซึ่งนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่สอง แต่ในวันนี้ การให้ความสำคัญกับการทหารของเยอรมนีกลับได้รับการต้อนรับ ตามประมาณการของ Bloomberg แพ็กเกจกระตุ้นเศรษฐกิจประมาณ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐจะเพิ่ม GDP หนึ่งเปอร์เซ็นต์ในช่วงระยะสั้น ทำให้ถึง 2% ภายในปี 2024 ซึ่งจะทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรเพิ่มขึ้น และการกระชับส่วนต่างกับพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐจะสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งสำหรับแนวโน้มขาขึ้นในระยะยาวของ EUR/USD ถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะขึ้นรถไฟขบวนสุดท้ายที่มุ่งหน้าไปทางเหนือ?

พลวัตของผลตอบแทนพันธบัตรของเยอรมนี

การเปลี่ยนแปลงของเยอรมนีจากการควบคุมงบประมาณอย่างเข้มงวดไปสู่การขยายตัวทางการคลังถูกเปรียบเทียบกับแผนมาร์แชลล์ ซึ่งช่วยสร้างยุโรปใหม่หลังสงครามโลกครั้งที่สอง ในขณะที่สหรัฐฯ กำลังลดการใช้จ่ายของรัฐบาล ความแตกต่างในนโยบายการคลังนี้ — ซึ่งก่อนหน้านี้เอื้อประโยชน์ต่อพวกที่เชื่อต่ำในคู่สกุลเงิน EUR/USD — ขณะนี้เริ่มเอื้อประโยชน์ต่อเงินยูโร แทนที่จะเห็นการโดดเด่นของสหรัฐฯ เราเห็นการโดดเด่นของเยอรมนีแทน

คู่สกุลเงินนี้ได้ทะลุแนวต้านหลักที่ 1.091 และไต่ขึ้นไปยัง 1.095 ได้รับแรงหนุนจากความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นในธุรกิจของเยอรมนี ดัชนีความคาดหวังทางเศรษฐกิจของ ZEW พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2022 โดยได้รับแรงขับจากความหวังสำหรับมาตรการกระตุ้นขนาดใหญ่จาก Friedrich Merz ตัวชี้วัดสภาพการณ์ปัจจุบันก็ปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน

ความเชื่อมั่นของนักลงทุนในเศรษฐกิจของเยอรมนี

แนวโน้มระยะยาวของเงินยูโรยังคงเป็นบวก แต่การขึ้นของราคา EUR/USD อาจมีจำกัดในระยะสั้นด้วยเหตุผลสามประการ ประการแรก การคาดหวังที่เกิดจาก "Trump trade" ได้สิ้นสุดลงแล้ว ประการที่สอง ตลาดคาดการณ์ความเสี่ยงของเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐฯ สูงเกินไป ประการที่สาม ความคาดหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ อย่างรุนแรงอาจเกินความจริง

ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น 7% จากจุดต่ำสุดในเดือนกันยายน อันเกิดจาก "Trump trade" ซึ่งนักลงทุนคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเติบโตขึ้นและธนาคารกลางสหรัฐฯ จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับสูง อย่างไรก็ตาม ถึงกลางเดือนมีนาคม EUR/USD ได้กลับสู่ระดับที่เกิดขึ้นในช่วงการเลือกตั้งเดือนพฤศจิกายน โดยฟื้นตัวยอดขาดทุนที่เสียไปกลับมาเกือบทั้งหมด เป็นเวลาที่เหมาะสมในการเก็บเกี่ยวผลกำไร

Scott Bessent รัฐมนตรีคลังของสหรัฐฯ ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ อยู่ในสภาพดีและไม่มีสัญญาณของเศรษฐกิจถดถอยที่ใกล้จะเกิดขึ้น นักลงทุนเคยตื่นตระหนกจากความคิดเห็นของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ไม่ปฏิเสธถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจหรือข้อมูลชุดหนึ่งที่ไม่เป็นไปในทางที่ดี อย่างไรก็ตาม รายงานอื่น ๆ แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจยังคงมีเสถียรภาพ มุมมองเชิงบวกที่กลับมาอาจส่งผลให้เกิดการเข้าซื้อดอลลาร์อีกครั้ง พร้อมกับการปรับลดความคาดหวังต่อการลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดอย่างค่อยเป็นค่อยไป ตลาดคาดว่าการตัดอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ 70 จุดพื้นฐานภายในสิ้นปี 2025 ซึ่งอาจมากเกินไป

บนกราฟรายวันของ EUR/USD อาจเกิดแพทเทิร์น "Anti-Turtles" การที่ราคาต่ำกว่าระดับสนับสนุนที่ 1.089 จะเป็นสัญญาณให้ขาย อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์การซื้ออาจกลับมามีแรงใหม่หากราคาไม่สามารถถึงระดับนั้นได้หรือเด้งกลับหลังจากทดสอบระดับนั้น